ข้อคิดที่ได้จากหนังสือ Only Time Will Tell
ข้อคิดที่ได้จากหนังสือ Only Time Will Tell เป็นหนังสือที่รวบรวมบทความของ วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร a day BULLETIN โดยมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับ การใช้ชีวิต การ พัฒนาตนเอง และ ความสัมพันธ์ ผ่านมุมมองที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง หนังสือเล่มนี้ชวนให้ผู้อ่านได้หยุดคิด ทบทวน และค้นหาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง
1. ใช้ชีวิตให้พอใจในความเรียบง่าย
ชีวิตที่น่าพอใจไม่ได้ต้องการสิ่งหรูหรามากมาย บางครั้งแค่การมีคนข้าง ๆ ที่ทำให้วันของเรามีความหมายก็เพียงพอแล้ว ความสุขไม่ได้ซับซ้อน หากเรามองหาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว ชีวิตที่มีคนสำคัญคอยอยู่เคียงข้างอาจทำให้ทุกวันที่แสนธรรมดากลายเป็นวันที่มีความหมายและเต็มไปด้วยคุณค่า การให้ความสำคัญกับสิ่งเล็ก ๆ ทำให้เราเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต
2. อย่าปล่อยให้ความเหงาทำให้เราเสียโอกาสในการค้นพบตัวเอง
ความเงียบอาจทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว แต่บางครั้งมันกลับเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ในตัวเอง ความเงียบไม่ใช่ความเหงาเสมอไป มันเป็นโอกาสให้เราได้ทบทวน เรียนรู้ และสำรวจจิตใจของตัวเอง บางครั้งการอยู่กับตัวเองทำให้เราเข้าใจตัวตนของเรามากขึ้น เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และค้นพบความสงบในชีวิต
3. รักษาสัญญาด้วยความมั่นใจในคำพูด
คำสัญญาคือสิ่งที่เปราะบาง และมันบ่งบอกถึงความรับผิดชอบและความจริงใจในตัวเรา การรักษาสัญญาคือการแสดงความเคารพทั้งต่อผู้อื่นและตัวเอง แต่ถ้าไม่มั่นใจในสิ่งที่พูด ก็ไม่ควรสัญญาเลย เพราะคำสัญญาที่ผิดพลาดไม่เพียงแต่ทำลายความไว้วางใจของผู้อื่น แต่ยังบั่นทอนความน่าเชื่อถือในตัวเราเองด้วย คำพูดที่หนักแน่นและจริงใจจึงมีพลังมากกว่าคำสัญญาที่ว่างเปล่า
4. บางทีความพ่ายแพ้ก็เป็นครูที่ยิ่งใหญ่
ความล้มเหลวบางครั้งให้บทเรียนที่ลึกซึ้งกว่าความสำเร็จ มันสอนเราให้รู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าเรามีความแข็งแกร่งแค่ไหน และทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่อาจไม่เคยเห็นในตอนที่ชนะ ความพ่ายแพ้จึงไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุด แต่คือการเริ่มต้นใหม่ของการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง การกล้าที่จะยอมรับความพ่ายแพ้คือความกล้าหาญที่แท้จริง เพราะมันทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น
5. ตัดสินใจอย่างช้าและใช้เวลาเพื่อเข้าใจผู้อื่น
การรีบตัดสินคนอื่นอาจทำให้เราพลาดที่จะเข้าใจและเห็นมุมมองของเขาจริง ๆ การตัดสินใจอย่างช้าและเปิดใจฟังผู้อื่นจะทำให้เราเข้าใจและเคารพในความแตกต่างของแต่ละคน เพราะความแตกต่างคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความงดงาม การให้เวลาเพื่อเข้าใจผู้อื่นอย่างแท้จริงนั้นอาจทำให้เราได้พบมิตรภาพที่ยืนยาวและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
6. ความฝันอาจไม่สำคัญเท่ากับการใช้ชีวิตจริง
บางครั้ง การปล่อยให้ความฝันของเรากลายเป็นพันธนาการที่ดึงเราออกจากความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ความฝันมีค่า แต่ถ้าเรายึดติดจนมันทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตในปัจจุบันได้ เราอาจต้องหันมาประเมินใหม่ การขีดฆ่าความฝันบางอย่างเพื่อให้ชีวิตของเราเดินหน้าต่อไปในเส้นทางที่เหมาะสมก็อาจจะดีกว่า เพราะชีวิตคือการหาจุดสมดุลระหว่างความฝันและความเป็นจริง
เล่มนี้ยังมีข้อคิดดี ๆ อีกมาก
หมายเหตุ: หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ สามารถหาอ่านได้จากร้านหนังสือทั่วไป หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ
บทความอื่นที่น่าสนใจ