ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทคุ้มครองอะไรบ้าง?
การทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ” ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทคุ้มครองอะไรบ้าง ” เพราะมีหลายแบบให้เลือก และแต่ละแบบก็ให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน การเลือกประกันให้เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินจำเป็น
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ประเภทของประกันรถยนต์ แต่ละแบบ พร้อมเปรียบเทียบความคุ้มครองให้เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ประเภทของประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
1. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
- เป็นประกันที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำ
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุรถยนต์
- ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
- เป็นประกันที่เจ้าของรถสามารถเลือกทำหรือไม่ทำก็ได้
- มีหลายประเภทให้เลือก แต่ละประเภทมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน
ส่วนประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ซึ่งแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันดังนี้
1. ประกันชั้น 1 คุ้มครองครบที่สุด
- คุ้มครองความเสียหายของ รถเรา + คู่กรณี (แม้ไม่มีคู่กรณี)
- คุ้มครอง อุบัติเหตุ รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมและถูกโจรกรรม
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอกและผู้เอาประกัน
- คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและรถยนต์ของผู้เอาประกัน
- เหมาะสำหรับรถใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด
2. ประกันชั้น 2+ คุ้มครองดี ราคาถูกกว่า
- คุ้มครอง รถเรา + คู่กรณี (ต้องมีคู่กรณี)
- คุ้มครอง รถหาย ไฟไหม้
- คุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลและชีวิต
❌ ไม่คุ้มครอง
- กรณีขับชนสิ่งของ หรือไม่มีคู่กรณี
- ความเสียหายจากน้ำท่วม
💰 เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการความคุ้มครองสูงแต่จ่ายเบี้ยน้อยกว่าชั้น 1 แเละรถที่ใช้งานมาหลายปี แต่ยังต้องการคุ้มครองจากอุบัติเหตุ
3. ประกันชั้น 3+ ประหยัด แต่ยังคุ้มครองรถเรา
- คุ้มครอง รถคู่กรณี + รถเรา (เมื่อชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น)
- คุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลและชีวิต
❌ ไม่คุ้มครอง
- รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- ความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
💰 เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการประกันราคาถูก แต่ยังต้องการคุ้มครองรถตัวเอง และรถเก่าที่มูลค่าไม่สูงมาก
4. ประกันชั้น 2 คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ แต่ไม่คุ้มครองอุบัติเหตุรถเรา
- คุ้มครอง รถหาย ไฟไหม้
- คุ้มครอง รถคู่กรณี + ค่ารักษาพยาบาล
❌ ไม่คุ้มครอง
- รถเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
💰 เหมาะสำหรับ คนที่กังวลเรื่องรถหาย ไฟไหม้ มากกว่าการชน
5. ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ราคาถูกสุด
- คุ้มครอง ชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณี
- คุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาล
❌ ไม่คุ้มครอง
- ความเสียหายของรถเรา
- รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
💰 เหมาะสำหรับ รถเก่าที่มูลค่าต่ำมาก และ คนที่ต้องการประกันราคาถูกสุด
ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครองของแต่ละประเภท
ประเภทประกัน | คุ้มครองรถเรา | คุ้มครองคู่กรณี | ค่ารักษาพยาบาล | รถหาย | ไฟไหม้ | น้ำท่วม |
ชั้น 1 | ✅ (ทุกกรณี) | ✅ (ทุกกรณี) | ✅ (ทุกคน) | ✅ | ✅ | ✅ |
ชั้น 2+ | ✅ (เมื่อมีคู่กรณี) | ✅ (ทุกกรณี) | ✅ (ทุกคน) | ✅ | ✅ | ❌ |
ชั้น 3+ | ✅ (เมื่อชนกับรถเท่านั้น) | ✅ (ทุกกรณี) | ✅ (ทุกคน) | ❌ | ❌ | ❌ |
ชั้น 2 | ❌ | ✅ (ทุกกรณี) | ✅ (ทุกคน) | ✅ | ✅ | ❌ |
ชั้น 3 | ❌ | ✅ (ทุกกรณี) | ✅ (ทุกคน) | ❌ | ❌ | ❌ |
วิธีเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสม
- พิจารณาความต้องการและความเสี่ยงในการขับขี่
- เปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันของแต่ละบริษัท
- เลือกบริษัทประกันที่มีชื่อเสียงและบริการดี
- อ่านเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณอุ่นใจทุกครั้งที่ขับขี่ อย่าลืมศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบความคุ้มครองก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด
บทความอื่นที่น่าสนใจ