10 ที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับ ฟินกับวิวสวย สูดอากาศบริสุทธิ์!
10 ที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพ
ชีวิตในเมืองที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยความเครียด อาจทำให้หลายคนโหยหาธรรมชาติที่เงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์ แต่ไม่ต้องเดินทางไกลก็สามารถสัมผัสความสดชื่นจากธรรมชาติได้ เพราะรอบ ๆ กรุงเทพฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติมากมายที่สามารถเดินทางไปกลับได้ในวันเดียว ไม่ต้องค้างคืนก็เที่ยวสนุกและผ่อนคลายได้เต็มที่ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 10 ที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพ ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบไปเช้าเย็นกลับ ให้คุณได้รีเฟรชร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่!
1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (นครราชสีมา)
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2505 นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก และสระบุรี มีพื้นที่ประมาณ 2,168 ตารางกิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญทางระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
ทำไมต้องไป? เขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่และมีความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ น้ำตก และสัตว์ป่านานาชนิด
กิจกรรมแนะนำ
- เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
- เที่ยวน้ำตก เช่น น้ำตกเหวสุวัต
- ดูสัตว์ป่าตามจุดชมวิว เช่น เขาเขียว
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 2.5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
- เดินทางโดยรถส่วนตัว: ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (พระราม 2) ผ่านสมุทรสงคราม แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) มุ่งหน้าสู่เพชรบุรี จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 3499 เพื่อเข้าสู่เขื่อนแก่งกระจาน
2. แก่งกระจาน (เพชรบุรี)
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าตะวันตกที่อุดมไปด้วยระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด รวมถึงเสือโคร่งและช้างป่า
ทำไมต้องไป? เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีเขื่อนใหญ่ ธรรมชาติเงียบสงบ และกิจกรรมแน่น
กิจกรรมแนะนำ
- ล่องเรือชมเขื่อนแก่งกระจาน
- ดูนกและชมทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่ง
- เที่ยวสะพานแขวนและน้ำตกป่าละอู
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 2.5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
3. วังน้ำเขียว (นครราชสีมา)
วังน้ำเขียว เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภาคอีสาน ด้วยอากาศบริสุทธิ์ตลอดปี ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบายและเหมาะแก่การท่องเที่ยว
ทำไมต้องไป? วังน้ำเขียวได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน” เพราะมีอากาศดีตลอดปีและธรรมชาติสวยงาม
กิจกรรมแนะนำ
- เที่ยวฟาร์มผักปลอดสารพิษ
- ชมไร่องุ่นและสวนดอกไม้
- ขับรถเที่ยววิวเขาและถ่ายรูป
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
4. สวนผึ้ง (ราชบุรี)
สวนผึ้ง เป็นอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดราชบุรีที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยบรรยากาศเงียบสงบ โอบล้อมด้วยขุนเขา และอากาศเย็นสบายตลอดปี ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ฟาร์มสัตว์น่ารัก และจุดเช็กอินสุดชิค เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวายในเมือง
ทำไมต้องไป? อากาศเย็นสบาย มีกิจกรรมมากมาย และใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก
กิจกรรมแนะนำ
- เที่ยวน้ำตกเก้าโจน
- ชมฟาร์มแกะที่ Swiss Valley หรือ The Scenery Vintage Farm
- คาเฟ่สวย ๆ กลางหุบเขา
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 2.5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
5. น้ำตกเอราวัณ (กาญจนบุรี)
น้ำตกเอราวัณ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป น้ำใสสีเขียวมรกตเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ
ทำไมต้องไป? น้ำตกสวย 7 ชั้น น้ำใสสีเขียวมรกต เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในไทย
กิจกรรมแนะนำ
- เดินขึ้นไปชมแต่ละชั้นของน้ำตก
- เล่นน้ำและพักผ่อนริมธาร
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
6. อุทยานหินเขางู (ราชบุรี)
อุทยานหินเขางู เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินที่สำคัญของจังหวัดราชบุรี ก่อนจะถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีภูมิทัศน์งดงาม โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนและบึงน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานแขวนและเส้นทางเดินชมวิวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและถ่ายภาพ
ทำไมต้องไป? จุดถ่ายรูปสวยมาก มีภูเขาหินปูนและบึงน้ำที่เงียบสงบ
กิจกรรมแนะนำ
- เดินเล่นรอบบึงน้ำ
- ปั่นจักรยานชมวิว
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
7. บางกระเจ้า (สมุทรปราการ)
บางกระเจ้า เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ และได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” ด้วยสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ และสวนธรรมชาติ ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และใช้เวลาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
ทำไมต้องไป? ได้รับฉายาว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และอากาศบริสุทธิ์
กิจกรรมแนะนำ
- ปั่นจักรยานชมสวน
- แวะคาเฟ่ริมน้ำ
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาทีจากกรุงเทพฯ
8. เขาช่องลม (นครนายก)
เขาช่องลม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เพราะมีวิวภูเขา ลำธาร และธรรมชาติที่งดงาม ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบของธรรมชาติบริสุทธิ์
ทำไมต้องไป? ธรรมชาติสวย น้ำใส มีวิวหุบเขาและลำธาร
กิจกรรมแนะนำ
- ล่องเรือชมวิว
- ถ่ายรูปกับวิวภูเขาและลำธาร
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
9. เกาะแสมสาร (ชลบุรี)
เกาะแสมสาร เป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามและยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลใสแจ๋ว และกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทั้งสายลุยและสายชิลที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
ทำไมต้องไป? น้ำทะเลใส หาดทรายขาว กิจกรรมทางน้ำเพียบ และมีการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างดี
กิจกรรมแนะนำ
- ดำน้ำตื้นดูปะการังและฝูงปลา
- พายเรือคายัคชมความงามของเกาะ
- เดินเล่นและถ่ายรูปบนหาดทรายขาว
- ศึกษาธรรมชาติที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ
จุดที่ห้ามพลาด
- จุดชมวิวบนเกาะ มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสสุดลูกหูลูกตา
- หาดเทียน หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของเกาะ
- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของเกาะ
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 2.5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
- ต้องขึ้นเรือจากท่าเรือเขาหมาจอ อำเภอสัตหีบ โดยต้องจองตั๋วล่วงหน้า เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน
10. อุทยานธรรมชาติวิทยาอ่าวคุ้งกระเบน (จันทบุรี)
อุทยานธรรมชาติวิทยาอ่าวคุ้งกระเบน ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นแหล่งศึกษาและอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่งและป่าชายเลนในจังหวัดจันทบุรี พื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง มีการสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ประชาชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศอย่างใกล้ชิด
ทำไมต้องไป? มีป่าชายเลนสวยงามและเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล
กิจกรรมแนะนำ
- เดินเล่นบนสะพานไม้กลางป่าชายเลน
- ศึกษาระบบนิเวศทางทะเล
- เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง
- ชมวิวทะเลบริเวณปากอ่าวคุ้งกระเบน
การเดินทาง
- ใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
เคล็ดลับการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับให้คุ้มค่า
- วางแผนเวลา ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อให้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น
- เช็กสภาพอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงฝนตกหรืออากาศร้อนจัด
- เตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น หมวก ครีมกันแดด รองเท้าสำหรับเดินป่า
- เลือกสถานที่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เช่น หากชอบเดินป่าก็เลือกอุทยาน หากชอบทะเลก็เลือกเกาะ
การเที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพแบบไปเช้าเย็นกลับเป็นวิธีที่ดีในการพักผ่อนจากความวุ่นวายในเมือง ไม่ต้องเสียเวลาหลายวันก็สามารถเติมพลังให้ร่างกายและจิตใจได้ ลองเลือกสถานที่ที่คุณสนใจและออกเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติในวันหยุดนี้กันเถอะ!
บทความอื่นที่น่าสนใจ