แกงสายบัวใส่ปลาทู สไตล์อีสาน (ไม่ใส่กะทิ)
สวัสดีค่ะวันนี้แอดมีเมนูแซ่บๆ มาฝากค่ะ นั่นคือเมนู แกงสายบัวใส่ปลาทู แบบอีสาน ที่มีรสชาติ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ด้วยรสชาติของสมุนไพร และน้ำปลาร้า ที่ทำให้หลายๆ คนติดใจในรสชาติ และแถมยังเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย สายบัวถือเป็นผักหาทานได้ไม่ยาก ยิ่งแถวชนบทด้วยแล้วยิ่งหาทานสายบัวได้ง่าย เพราะเป็นพืชพื้นบ้านดั้งเดิมที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยมาเนิ่นนานนั่นเอง
สรรพคุณและประโยชน์ของสายบัว
ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง (สายบัว) ดอกช่วยแก้ไข้ตัวร้อน (ดอก) ช่วยแก้อาการร้อนใน (ดอก) ก้านบัวสายมีรสจืดและเย็น ช่วยบรรเทาความร้อนในร่างกาย (ก้านบัว) สายบัวมีเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยป้องกันและต้านโรคมะเร็งในลำไส้
ประโยชน์ของปลาทู
- โปรตีนสูง ในเนื้อของปลาทูนั้น อุดมไปด้วยโปรตีนมากมาย ซึ่งโปรตีนจากเนื้อปลาทูจะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และ สุขภาพดี
- ช่วยบำรุงประสาทและสมอง ในปลาทูนั้นมีไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 ไอโอดีน และกรดไขมัน DHA ที่ช่วยในเรื่องของความจำ การพัฒนาของระบบประสาทและสมอง และ ช่วยบำรุงสายตา
เราจะเห็นได้ว่าทั้งในสายบัว และปลาทูนั้นมีประโยชน์มากมาย ถ้าเช่นนั้นเราก็มาลงมือทำและเตรียมวัตถุดิบเมนู แกงสายบัวใส่ปลาทู กันค่ะ
วัตถุดิบ
- สายบัวปลอกเปลือกแล้ว หั่นเป็นท่อนๆ
- ปลาทูนึ่ง ( แกะก้างแล้ว ) 4 ตัว
- มะขามเปียก
- น้ำสะอาด
- น้ำปลาร้า
- น้ำปลา
- ผงชูรส
- พริกขี้หนู
- หัวหอมแดง
- ต้นหอม
- ใบแมงลัก
วิธีการทำ
- เริ่มจาก ล้างสายบัวให้สะอาด แล้วพักไว้ก่อน จากนั้นแกะก้างปลาทู เรียบร้อยเสร็จแล้วพักไว้ *** ถ้าไม่แกะก้างปลาทู ก็ได้ สามารถใส่ได้ทั้งตัวได้เลย ***
- โขลกพริก กับ หัวหอมแดง แค่พอแหลก พักไว้ แล้วล้างต้นหอม ให้สะอาด ตัดรากออก แล้วหั่นเป็นท่อน
- จากนั้นก็ล้างใบแมงลัก แล้วเด็ดใบให้เรียบร้อย เสร็จ นำหม้อตั้งไฟกลางๆ ใส่น้ำสะอาดลงไป รอให้น้ำเดือดแล้วจึงใส่พริกแกงลงไป
- เสร็จแล้วตามด้วยสายบัวที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปในหม้อรอให้สายบัวสุกและยุบตัวลง
- แล้วจึงปรุงรสชาติด้วย น้ำปลาร้า น้ำปลา มะขามเปียก หรือ น้ำมะขามเปียก ผงชูรส คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติ
- จากนั้นจึงใส่ปลาทูตามลงไป รอให้เดือนประมาณ 3 นาที ให้ปลาทูสุก
- เสร็จแล้ว จึงใส่ต้นหอมหั่นท่อน และ ใบแมงลัก ลงไปคนให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ
- ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทาน จะเป็นข้าวสวย หรือ ข้าวเหนียวตามสะดวกเลยจ้า
ข้อมูลอ้างอิง : medthai.com, www.sarakaset.com
เรียบเรียง : นงนุช
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ