10วิธีการปลูกกระท่อม พืชเศรษฐกิจน้องใหม่มาแรง!! ปลูกยังไงให้โตเร็ว
วิธีการปลูกกระท่อม
พืชกระท่อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 10 – 15 เมตรใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวเป็นคู่ตรงข้าม และมีหูใบ 1 คู่ ใบมีรสขมเฝือน แผ่นใบสีเขียว พบได้ในแถบจังหวัดภาคใต้ เป็นพืชที่ใช้เป็นยาในสูตรยาหมอพื้นบ้าน หรือ หมอแผนโบราณ เช่น ยาประสากระท่อม ยาแก้บิดหัวลูก ฯลฯโดยกระท่อมมีสารไมตราเจนีน ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีคุณสมบัติเป็นยาแก้ปวด เช่นเดียวกับมอร์ฟินโดยมีการใช้แก้ไอ แก้ปวดเมื่อยแก้เบาหวาน แก้ท้องเสีย ฯลฯ โดยนิยมเคี้ยวใบสดหรือต้มเป็นชาดื่มเพื่อให้รู้สึกไม่เมื่อยล้าขณะทำงาน ทำนา ทำสวน ปัจจุบันได้ปลดจากบัญชียาเสพติด จึงสามารถส่งเสริมการปลูกและใช้ประโยชน์ได้ในรูปแบบพืชสมุนไพร
กระท่อมมีหลายสายพันธุ์ ในแต่ละพันธุ์มีความแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะลักษณะของใบ มี 3 สายพันธุ์ ดังนี้
1. กระท่อมพันธุ์ก้านแดง มีก้านและเส้นใบสีแดง มีรสชาติขมกว่ากระท่อมก้านเขียวและมีฤทธิ์ยาวนานกว่าประมาณ 30 นาที
2. กระท่อมพันธุ์ก้านเขียว (แตงกวา) มีเส้นใบสีเขียวอ่อนกว่าแผ่นใบ นิยมมากกว่าก้านแดง เพราะมีรสชาติที่ขมน้อยกว่าก้านแดง
3. ยักษ์ใหญ่ (หางกั้ง) มีใบขนาดใหญ่กว่าพันธุ์อื่นและส่วนบนของขอบใบเป็นหยัก
การขยายพันธุ์กระท่อม
- กระท่อมนิยมใช้เมล็ด ในการขยายพันธุ์ โดยเพาะเมล็ดในระบบปิดหรือเพาะแบบเปิดแต่รดน้ำให้ชื้นอยู่เสมอ โดยเพาะต้นกล้าจนได้ ความสูงมากกว่า 15 ซม. แล้วย้ายปลูกลงแปลง
- ขยายพันธุ์โดยติดตา ทาบกิ่ง เสียบยอด กับต้นตอที่มีความแข็งแรงหรือปักชำากิ่งที่มีตาข้าง (ข้อที่ 1 ถึงข้อที่ 8) วางไว้ในที่ร่ม และควบคุมความขึ้น
- ขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จากเมล็ด ตายอด และตาข้าง
วิธีการปลูกกระท่อมด้วยเมล็ด
การปลูกกระท่อมด้วยเมล็ดที่ทำได้รวดเร็วและสะดวกที่สุดจะเป็นการปลูกระบบปิด โดยใช้อุปกรณ์ถุงพลาสติกหรือวัสดุ
ครอบพาชนะปลูกเพื่อควบคุมความชื้นสัมพัทธ์และลดการระเหยออกของน้ำ วิธีนี้จะช่วยให้เมล็ดกระท่อมเจริญเติบโตในระยะ
เวลาอันรวดเร็ว ประมาณ 5-7 วัน และไม่ต้องรดน้ำตลอดระยะเวลาดังกล่าว
โดยมีขั้นตอนวิธีการปลูกดังนี้
- นำดินปลูกหรือพีทมอสใส่ลงในกระบะหรือกะละมังประมาณครึ่งหนึ่งของพาชนะจากนั้นรดน้ำให้ดินชุ่มหรือเปียกอย่างเห็นได้ชัด
- ค่อยๆ โรยเมล็ดกระท่อมลงไปอย่าให้ชิดกัน พยายามกระจายเมล็ดกระท่อมให้มากที่สุด แล้วนำดินปลูกหรือพีทมอสมาโรยทับด้านบนบางๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่มเปียกอีกครั้ง
- หุ้มกระบะหรือกะละมังปลูกด้วยพลาสติกใสไม่ให้อากาศเข้าได้ ปิดทิ้งไว้ไม่ต้องรดน้ำ และวางไว้ในที่ร่มเป็นเวลาประมาณ 5-7 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วนำออกมารดน้ำเช้า-เย็น
- เมื่อต้นกล้างอกขึ้นมาได้ระดับหนึ่งแล้วให้ย้ายไปปลูกในกระถางต่อไป
วิธีปักชำกระท่อม
การปลูกกระท่อมด้วยการปักชำเป็นการย่นระยะเวลาการเจริญเติบโต โดยเลือกกิ่งเดี่ยวไม่มีแขนงแยก นำมาปักชำและเร่งรากฝอยให้เจริญเติบโต แล้วนำไปปลูกต่อไป การปลูกกระท่อมด้วยวิธีนี้มีข้อเสีย คือระบบรากจะไม่แข็งแรงเท่าการปลูกกระท่อมด้วยเมล็ด ฉะนั้นในช่วงเวลา 1-2 ปี แรกควรมีการใช้ไม้ค้ำยันเอาไว้จนกว่ารากหรือลำต้นจะแข็งแรง โดยมีขั้นตอนวิธีการปลูกดังนี้
- นำดินปลูกหรือพีทมอสผสมกับน้ำให้พอชุ่ม (แต่ไม่แฉะ) ใส่ในกระป๋องหรือแก้วพลาสติกเตรียมไว้ ตัดกิ่งกระท่อมจากต้น โดยเลือกกิ่งที่เป็นกิ่งเดี่ยวและสมบูรณ์ ควรตัดกิ่งให้มีขนาดไม่ยาวเกินไปเพื่อให้ธาตุอาหารลำเลียงได้เร็วขึ้น
- ใช้น้ำยาเร่งราทาบริเวณโคนกิ่งแล้วทิ้งไว้แห้ง หรือ นำกิ่งไว้จุ่มแช่ไว้ประมาณ 20 นาทีนำกิ่งที่ทายาเร่งรากแล้วปักลงไปในดินที่เตรียมไว้ (หาไม้แทงดินลงไปก่อนปัก)
- นำถุงพลาสติกใสมาครอบแล้วมัดให้แน่นเพื่อไม่ให้อากาศถ่ายเท ตั้งไว้ที่มีแสงแดด แต่ไม่จัดเกินไป เมื่อรากเดินเต็มที่ให้นำไปปลูกลงดินต่อไป
เคล็ดลับ : หากใบกระท่อมจากกิ่งที่นำมาปักชำมีขนาดใบใหญ่เกินไป ให้ทำการตัดใบให้เหลือครึ่งหนึ่งเพื่อลดการคายน้ำและเพิ่มอัตรารอดในการปักชำ
การปลูกกระท่อม
- ระยะการปลูกกระท่อม ปลูกระยะ 4×4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกได้ 100 ต้น
- ดินและน้ำสำหรับปลูกกระท่อม ดินที่ใช้ปลูกกระท่อมควรเป็นดินร่วนซุย ควรมีน้ำอย่างทั่วถึงและปลูกกลางแจ้งเพื่อลดโรคเชื้อราจุดดำได้ (หรือเอาน้ำปูนขาวละลายรดหรือฉีด)
การดูแลรักษา
การใส่ปุ๋ย นิยมใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และฮอร์โมนเร่งใบ หรือหากต้องการใช้ปุ๋ยเคมีให้เลือกใช้ปุ๋ย N, K สูง เช่น 15-9-12
การให้น้ำ นิยมให้น้ำแบบสายน้ำหยด หรือมินิสปริงเกอร์ โดยให้น้ำเมื่อหน้าดินเริ่มแห้ง ไม่ควรปล่อยให้ดินแห้ง หรือให้น้ำมากเกินไปเพราะกระท่อมชอบดินที่ขึ้น แต่ไม่แฉะ
ศัตรูพืชกระท่อม
- วัชพืชที่สำคัญ และการป้องกันกำจัด ไม่มีปัญหาวัชพืช
- โรคที่สำคัญและการป้องกันกำจัด โรคที่พบบ่อยคือโรคเชื้อรจุดดำซึ่งพบในช่วงฝนสามารถใช้น้ำปูนขาวละลายรดหรือฉีดพ่น ไม่ควรใช้ยาและสารเคมีเนื่องจากอาจสะสมในใบส่งผลต่อการใช้ประโยชน์ในอนาคต
- แมลงศัตรูที่สำคัญและการป้องกันกำจัด ไม่พบศัตรูสำคัญ
การเก็บเกี่ยว
- การเก็บเกี่ยวใบ ให้ผลผลิตที่ดีเมื่ออาย 3 ปี ได้ผลผลิตรวม 2 กก./ต้น/เดือน(เก็บทุก 15 วัน) (200กก./ ไร่/เดือน)
- การเก็บเกี่ยวเมล็ด ควรเก็บเมื่อมีสีเขียวถึงน้ำตาลไม่ควรให้ฝักแห้งคาต้นเพราะฝักเมล็ดจะแตกออกเมล็ดร่วงหล่น โดยเมล็ดกระท่อมจะเสื่อมสภาพเร็ว ทำให้การงอกลดลง
- การบริโภค สามารถบริโภคใบสดต้มน้ำหรือผสมในตำหรับยา
ที่มา | siamkubota.co.th , kasetnew.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ