การทำหญ้าหมัก สำหรับเลี้ยงสัตว์
สวัสดีครับ ในบทความนี้เราจะพามาศึกษาวิธี การทำหญ้าหมัก สำหรับเลี้ยงสัตว์ ในช่วงน่าแล้วที่อาหารขาดแคลนกันครับ บอกได้เลยว่ามีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดครับ
ทำความเข้าใจกับ ” หญ้าหมัก “
หญ้าหมัก หมายถึง พืชอาหารสัตว์ต่างๆ ที่เก็บรักษาไว้ในสภาพความชื้นสูงในที่ไม่มีอากาศซึ่งการเก็บถนอมในลักษณะหมักนี้ สามารออยู่ได้เป็นเวลานาน โดยส่วนประกอบต่างๆและคุณค่าของอาหารไม่เปลี่ยนเปลี่ยนแปลงสำหรับไว้ใช้เป็นอาหารสัตว์ในช่วงขาดแคลนหญ้าสด
ประเภทของหญ้าหมัก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- หญ้าหมักสด คือ หญ้าหมักที่ได้จากการใช้พืชสด มีความชื้นสูง จากการตัดโดยตรงแล้วนำมาหมัก
- หญ้าหมักแห้ง คือ หญ้าหมักที่ได้จากการใช้พืชสดน่ามาผึ่งแดลระยะสั้น เพื่อไล่ความชื้นออกให้เหลือความชื้นน้อย แล้วจึงนำมาบรรจุหลุมหมักและต้องสับให้สั้นกว่าชนิดแรกเพื่อให้การอัดแน่นแน่นไปด้วยดี เนื่องจากความชื้นต่ำ กิจกรรมจุลินทรีย์จึงค่อนข้างจำกัด
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำหญ้าหมัก
อุปกรณ์สำหรับสับหญ้า ถุงดำหรือถุงพลาสติก หรือเท่าที่มีตามท้องถิ่น เพื่อบรรจุหญ้าสำหรับหมัก สารเสริมที่ทำให้การหมักดีขึ้น เช่น กากน้ำตาล 1 กก. เกลือ 500 กรัม เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพของหญ้าหมัก
วิธีการหมัก
- หั่นหรือสับหญ้าสดให้มีขนาด 2-3 ซม.
- บรรจุหญ้าสดที่หั่นแล้วลงในถุงพลาสติก อัดให้แน่นเพื่อไล่อากาศออกให้หมด ในขณะที่บรรจุหญ้าลงในถุง ให้ใส่กากน้ำตาล เกลือลงไปด้วย โดยแบ่งใส่เป็นชั้นๆ เพื่อช่วยให้การหมักดียิ่งขึ้น
- ใช้ยางรัดปิดปากถุง ที่บรรจุหญ้าให้สนิท เพื่อป้องกันอากาศและน้ำเข้านำไปเก็บไว้ในที่ร่ม ระวังอย่าให้ถุงมีรอยรั่วซึม เพราะจะทำให้เกิดรา และเน่าเสีย
- หมักไว้ 3-4 สัปดาห์ หญ้าเหล่านั้นจะกลายเป็นหญ้าหมัก นำมาใช้เลี้ยงสัตว์ได้
หมายเหตุ กรณีเริ่มใช้หญ้าหมัก เลี้ยงควรแบ่งให้วันละน้อยและเพิ่มขึ้นเมื่อสัตว์เคยชิน
ลักษณะที่ดีของหญ้าหมัก
สีหญ้าหมักที่ดี ควรมีสีเขียวแกมเหลือง หรือสีเหลือง ซึ่งถ้าหญ้าหมักเป็นสีดำไม่ควรนำไปใช้เลี้ยงสัตว์ กลิ่นหอมคล้ายผัก ผลไม้ดอง เนื้อหญ้าหมักจะต้องไม่เป็นเมือก ไม่เละ ไม่มีราหรือส่วนเน่าบูด ความชื้นควรอยู่ระหว่าง 65 – 70 % ทดสอบโดยบีบหญ้าหมักด้วยมือ ถ้ามีน้ำเหลวๆไหลออกมาแสดงว่า มีความชื้นมากเกินไป อาจทำให้หญ้าหมักเสียได้ง่าย
ข้อควรระวังในการทำหญ้าหมัก
- การอัดหญ้าลงในภาชนะที่ใช้หมักต้องอัดให้แน่นเพื่อไล่อากาศที่มีอยู่ในภาชนะออกให้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้การหมักเกิดได้ดี และหญ้าหมักเสียน้อยที่สุด
- การปิดภาชนะที่บรรจุต้องทำให้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศจากภายนอกเข้าไปในกองหญ้าหมัก
- เมื่อเปิดภาชนะควรใช้ให้หมดในระยะเวลาอันสั้น และเปิดภาชนะอย่าให้กว้างมาก เพื่อช่วยให้หญ้าหมักเสื่อมช้าลง
- หญ้าที่นำมาใช้หมักไม่ควรจะมีความชื้นสูงมากเพราะจะทำให้เกิดน้ำในภาชนะหมักมากเกินไป และหญ้าหมักเก็บได้ไม่นาน
- ระมัดระวังหนูหรือแมลงสาบที่จะมากัดภาชนะหรือพลาสติกที่ปิดให้เป็นรู อากาศจะเข้าไปทำให้หญ้าหมักเสียได้
ข้อดีของหญ้าหมัก
- สามารถทำได้ทุกฤดูกาล และสามารถใช้ทุกส่วนของต้นพืชให้เป็นประโยชน์ ส่วนของลำต้นที่แข็งเมื่อหมักแล้วจะอ่อนนุ่มสัตว์ชอบกิน
- ใช้พื้นที่ในการเก็บรักษาน้อย
- หญ้าหมักมีลักษณะอวบน้ำ สัตว์ชอบกิน
- การสูญเสียโดยการร่วงหล่นของใบพืช จากการทำหญ้าหญ้าหมักมีน้อย จึงสามารถรักษาธาตุอาหารต่าง ๆ ไว้ได้สูงกว่าหญ้าแห้ง และลดอันตรายจากอัคคีภัย ในการเก็บเมื่อเทียบกับหญ้าแท้ง
- สามารถเก็บรักษาได้นานเป็นปีๆ โดยคุณค่าทางอาหารไม่ลดลงถ้าหากมีการปฏิบัติอย่างดี
ข้อเสียของหญ้าหมัก
- ต้องมีความรู้ความชำนาญในการทำหญ้าหมัก เปลืองแรงงานและลงทุนมากกว่าการทำหญ้าแห้ง
- ขาดวิตามินดี
- เป็นราเสียหายง่าย เมื่อเปิดหลุมแล้ว เนื่องจากหญ้าหมักมีฤทธิ์เป็นกรค จึงทำลายกายภาชนะที่เป็นโลหะได้
หญ้าหมักดี วัวขุนมีสุขภาพดี!
การทำหญ้าหมักเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวขุนทุกท่าน ลองทำดูแล้วคุณจะพบว่ามันง่ายกว่าที่คิด แถมยังช่วยให้วัวขุนของคุณแข็งแรง อ้วนท้วนสมบูรณ์ และมีสุขภาพดีอีกด้วย
ข้อมูล : สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ กรมปศุสัตว์
บทความอื่นที่น่าสนใจ